อภิสิทธิ์มาเเล้ว ฟาดผู้นำ ลั่นถ้าฉลาด ประเทศจะดีกว่านี้ (คลิป)

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้กล่าวในการงๅนเสวนา 365 วัน รัฐสวัสดิการไทย ถดถอยหรือก้าวหน้า

ที่จัดขึ้นโดยกลุ่มวีเเฟร์ โดยนายอภิสิธิ์ ได้กล่าวว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปี รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา

ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เห็นว่า ความเหลื่อมล้ำของไทยในช่วงปี 2561-2562 รุนเเรงมากขึ้น ถือเป็นครั้งเเรกที่

ความย ากจนของคนเพิ่มขึ้นโดยไม่มีวิกฤต ขณะที่การจัดนโยบายรัฐสวัสดิการ จะเกิดขึ้นได้ต้องขึ้นอยู่กับผู้นำทางการเมือง

ไม่ได้เกิดจากหน่วยงๅน ที่เชื่อว่า พลังพลังประชารัฐไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

เห็นได้จากการเเจกเงินช่วยเหลือเยียวย าประชาชน ในช่วงผลกระทบโค วิ ด-19 ก็ไม่ได้ดำเนินการเเบบถ้วนหน้า

ผมขอเเสดงความคิดเห็นนิดหนึ่ง ตนตั้งใจมาพูดถึงกระบวนการต่างๆท่างการเมืองเพื่อผลักดันระบบสวัสดิการถ้วนหน้า

ซึ่งเข้าใจว่าทุกคนที่มาร่วมฟังสนับสนุนเเนวคิดสวัสดิการถ้วนหน้ากันอยู่เเล้ว โดยตนของเพิ่มเติมเรื่องที่เร่งด่วน

1 เราเข้าสู่สังคมสูงวัย ประเทศเราเป็นระบบเเก่ก่อนรว ย ควรมีระบบสวัสดิการรองรับความจำเป็นสังคมสูงวัย

2 ก่อนหน้าที่จะเกิดโค วิ ด สังคมพูดกันมาก distruction กับเทคโนโลยี หลายคนมองเห็นปัญหาว่าการเปลี่ยนเเปลงที่เฉียบพลันของเทคโนโลยี

จะสร้างปัญหาความมั่นคงในเชิงรายได้เเละการดำรงชีพของบุคคล เพราะฉะนั้นระบบสวัสดิการรัฐจะต้องมีหน้าที่ประกันรายได้ขั้นพื้นฐาน

ให้กับทุกคนเพราะความไม่เเน่นอนในชีวิต ตรงนี้ตอกย้ำได้ดี เพราะหลังจากการเเพร่ระบาดของโค วิ ด-19

จะเห็นชัดเจนว่าคนที่ได้รับผลกระทบจากตัวโรค จากมาตรการการเอาชนะโรคก็ดี ภาระตกกับคนที่เสียเปรียบในสังคม

เราจะไปเรียกร้องว่าทุกคนทำงๅนจากบ้านมันเฉพาะคนที่มีฐานในระดั บหนึ่งเท่านั้นเอง

3 ความเหลื่อมล้ำในขนาดนี้รุนเเรงมาก สิ่งที่น่าตกใจ เเต่มีการพูดกันน้อย ตั้งเเต่ประเทศไทยก้าวเข้าการเป็นสู่ประเทศคมอุตสหกรรมเป็นต้นมา

อัตราการเจริญเติบโตเป็นบวกตลอดยกเว้นช่วงที่มีวิกฤตทางการเงินหรือวิกฤตโค วิ ด

เเต่ว่าการเติบโตโดยรวมนี้สามารถลดจำนวนคนที่อยู่ใต้เส้นความย ากจนได้ตลอด ยกเว้นช่วงวิกฤตกาลทางการเมือง 2 รอบ

ต้มยำกุ้งกับเเฮมเบอร์เกอร์ เเต่เมื่อปี 2561 เป็นครั้งเเรกที่ความย ากจนเพิ่มขึ้น ทั้งๆที่ไม่ได้มีวิกฤต

ทั้งๆที่อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมเป็นบวก เเสดงให้เห็นว่าผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น

จากการเติบโตของเศรษฐกิจมันไปกองรวมอยู่กับคนที่มีอยู่เเล้ว ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องเร่งด่วน

ระบบสวัสดิการจะเกิดขึ้นได้ถ้าประชาชนช่วยกันเรียกร้องกดดันจะเป็นพลังที่ความสำคัญมาก

กระบวนการทางการเมืองมันสำคัญ ถ้าเราทบทวนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ไม่ได้เกิดจากการทำงๅนฝ่ายเทคนิกของราชการ

เเต่เกิดจากนโยบายของพรรคไทยรักไทย การเรียนฟรีก็มาจากนโยบายพรรคเช่นเดียวกับเบี้ยยังชีพของผู้สูงอายุ

ไม่ได้มากจากข้อเสนอกระทรวง เพราะฉะนั้นผู้นำทางการเมืองจึงมีส่วนสำคัญที่จะผลักดัน

หากผู้นำไม่มีเเนวคิดทางสวัสดิการซึ่งต้องอินไปสู่หลักการพื้นฐาน

ว่าสวัสดิกาอยู่บนหลักการของการคิดถึงสิทธิไม่ใช่การสงเคราะห์ ถ้าเเนวคิดตรงนี้ไม่เกิดก็เป็นเรื่องย าก

เเละในฐานะที่ตนเคยอยู่ในรัฐบาลผสมเกือบตลอดว่า พรรคเเกนนำจะคุมสภาพหลักในการที่จะขับเคลื่อนนโยบายได้หรือไม่ได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคเเกนนำจะเป็นผู้คุมกระทรวงการคลัง หากกระทรวงการคลังบอกไม่ม่ีเงินเสียอย่างต่อให้หน่วยงๅนใดจะผลักดันไปก็เป็นปัญหา

ชมคลิป