ตำรวจเจอหลักฐานเด็ด กระต๊อบ 4 หลังในป่า – หมายหัว ผู้ต้องสงสัย คดีน้องชมพู

ความคืบหน้าคดีน้องชมพู่ วันที่ 24 มิ.ย. 63 ล่าสุด ตำรวจได้ปูพรมขึ้นเขา พื้นที่ตำบลกกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร

สืบเนื่องจากคดีของนายชัชชญนันท์ จันทร์ภักดี อายุ 40 ปี ที่ก่อเหตุขโมยรถยนต์ตราโล่ สายตรวจ สภ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ และพบรถจอดทิ้งไว้ใน จ.นครพนม เพราะมีการสันนิฐานว่าอาจจะมีความเชื่อมโยงกับคดีฆ่าน้องชมพู่ ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านของนายชัชชญนันท์ ภายหมู่บ้านดอนเกลือ หมู่ 10 ต.บึงงาม อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด

ได้พบกับนางหนู นามสมมติ อายุ 64 ปี แม่ของนายชัชชญนันท์ เปิดเผยว่าตั้งแต่ลูกชายก่อเหตุชิงรถตราโล่ของตำรวจ ตนก็ไม่เคยได้ข่าวจากลูกชายอีกเลย กระทั่งเมื่อประมาณวันที่ 20 มิ.ย.63 ตำรวจก็ได้ย้อนกลับมาขอตัวอย่างเยื่อบุที่กระพุ้งแก้มของตนไปตรวจดีเอ็นเอ แต่ตำรวจก็ไม่ได้แจ้งว่าจะเก็บตัวอย่างไปทำอะไร

ทั้งนี้ตนก็ไม่ได้ถามและไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกับคดีของน้องชมพู่หรือไม่ แม้เส้นทางหลบหนีของลูกชายอาจจะเกี่ยวพันกับคดีของน้องชมพู่ แต่ตนก็มั่นใจว่าลูกชายไม่ใช่ฆาตกรที่ฆ่าน้องชมพู่อย่างแน่นอนพันเปอร์เซ็น เพราะลูกชายเป็นคนขี้กลัว ไม่สู้คน เห็นคนฆ่าไก่ก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้เพราะกลัวเลือด ตนเชื่อว่าลูกชายไม่ได้หลบหนีอยู่แถวหมู่บ้านกกกอก แต่อาจจะข้ามฝั่งไปยังประเทศลาวแล้ว

นางหนู กล่าวต่อว่า แม้ว่าลูกชายจะมีนิสัยที่ไม่สู้คน แต่ตนเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้ลูกชายยังหนีอยู่ในขณะนี้ เพราะกลัวที่จะต้องกลับไปติดคุกในคดียาเสพติดอีกครั้ง เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยติดคุกคดียาเสพติด และถูกซ้อมในเรือนจำ แต่ก็พ้นโทษมาแล้ว ซึ่งตอนนี้ตำรวจก็กำลังติดตามจับกุม เรื่องมันจะเกิดก็ต้องเกิด ถ้าลูกชายของตนจะถูกวิสามัญ ตนก็คงยอมให้เป็นไป เพราะตนได้แต่ภาวนาให้ลูกปลอดภัย เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องลูกชายก็ไม่เคยติดต่อมาเลย และถ้าลูกชายติดต่อมา ตนก็จะบอกให้มอบตัว อีกทั้งไม่อยากให้ลูกชายต้องหนีไปเช่นนี้

นอกจากนี้เส้นทางคาดการณ์จับนายชัชชญนันท์ ในวันที่ 10 พ.ค.63 ได้ชิงรถตำรวจ ที่อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ และปรากฏว่าในวันที่ 11 พ.ค.63 น้องชมพู่ หายตัวไป กระทั่งวันที่ 14 พ.ค.63 ตำรวจค้นบ้านพ่อตาเพื่อนสนิท ต.สร้างค้อ อ.ภูพาน จ.สกลนคร

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกทีมข่าว เพื่อเตรียมตัวเดินทางขึ้นไปยังห้วยวังฮี และทับควาย ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ด้านหลังของภูเหล็กไฟ รอยต่อระหว่างจังหวัดมุกดาหาร สกลนคร และนครพนม ซึ่งการเดินครั้งนี้เป็นการเดินตามสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกี่ยวกับคดีนายชัชชญนันท์ ชาว จ.ร้อยเอ็ด เป็นผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับคดียาเสพติดและลักทรัพย์ รถกระบะตราโล่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาวง โดยเหตุเกิดขึ้น 10 พ.ค.63 ช่วงใกล้เคียงกับคดีการหายตัวของน้องชมพู่ เพื่อพิสูจน์ว่าบนจุดดังกล่าวจะมีร่องรอยของคนร้ายหรือไม่

ข้อมูลที่ได้รับมาคือเป้าหมายเดินไปที่ ทับควาย อยู่ห่างไปราว 5 กิโลเมตร หลังภูเหล็กไฟ ที่นั้นเป็นจุดที่ชาวบ้านนำควายมาปล่อยเลี้ยงไว้บนเขา และมีการสร้างเถียงไว้ จำนวน 3 เถียง นอกจากนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้มีผลดีเอ็นเอ เส้นผม1 เส้น ที่พบใกล้ศพน้องชมพู่ เป็นเส้นผมที่ไม่ใช่ของคนในหมู่บ้านกกกอก จึงมีความเป็นไปได้ที่อาจจะเกี่ยวกับคนร้ายในคดีชิงรถตำรวจ

ทีมข่าวออกเดินเท้า พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากชุด พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจงยอดสุข รอง ผบ.ตร พร้อมตำรวจอีก 4 นาย เดินไปพร้อมกับชาวบ้าน ซึ่งเส้นทางค่อนข้างราบ ไม่สูงชัน เดินง่ายกว่าการเดินขึ้นไปบนภูเหล็กไฟ ทีมข่าวเดินทางไปประมาณ 3 กิโลเมตร จะเจอกันห้วยวังฮี

จุดนี้เป็นทางน้ำหลังภูเหล็กไฟ เคยมีชาวบ้านมาหากบ อึ่งอ่าง รวมทั้งมีชาวบ้านน้ำควายมาปล่อยไว้ เพื่อให้กินหญ้า ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านจาก จ.สกลนคร ทีมข่าวพบควายอยู่บนนี้ ประมาณ 5 ตัว

ทีมข่าวเดินต่อไปเรื่อย ๆ เส้นทางอีกราว 2 กิโลเมตร จะก็พบกับเถียงจริง เถียงที่ 1 เป็นเถียงยกใต้ถุนสูงราว 2 เมตร บนเถียงสภาพค่อนข้างเก่า และมีร่องรอยคนอยู่ แต่นานมากแล้ว เจอขวดเครื่องดื่มชูกำลัง จานเก่า เสื้อเก่า 1 ตัว กล้วยเน่าวางอยู่กลางบ้าน คาดคนไม่ได้มานานแล้ว

ทีมข่าวเดินต่อไปเรื่อย ๆ อีกราว 100 เมตร พบเถียงที่ 2 เถียง ยกสูงราว 50 เซนติเมตร ด้านในเถียงมีการแบ่งส่วนครัว มีของใช้ในครัว มีเสื้อผ้าพาดเต็มไปหมด รวมทั้งยังมีถังเก่า เถียงลักษณะเปิดโล่ง พื้นยังมีฝุ่น แต่ไม่เก่าเท่ากับเถียงที่ 1

ทีมข่าวเดินต่อไปอีก ราว 100 เมตร พบเถียงที่ 3 ลักษณะเหมือนบ้าน ด้านในพื้นยังสะอาด แต่มีจุดค่อนข้างรถ เจอรองเท้าแตะ 1 คู่ ไซส์ 42 รองเท้าเดินเขา 1 ข้าง ไซส์ 40 ด้านในเจอผ้าห่ม ผ้าบูรอย ขวดเหล้าขาว ของใช้ในครัว แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ยังมีเทียนวางกองอยู่กลางบ้าน

ทั้งนี้ปรากฎจุดนี้ ทีมข่าวมาเจอเถียงที่ 4 อยู่ติดกับเถียงที่ 3 ห่างออกไป 30 เมตร คาดว่าเป็นของเจ้าของเดียวกัน ซึ่งสภาพเก่ามากแล้ว บันไดชำรุดไม่สามารถขึ้นไปได้ ส่วนเรื่องเส้นขนสัตว์ ยืนยันว่ามีการเจอในที่เกิดเหตุจริง แต่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นเส้นของสุนัขหรือแมว จึงต้องมีการเก็บขนหมาของคนในหมู่บ้านไปตรวจสอบ

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้คุยกับนายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้เลย ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ และตนก็ไม่ทราบพิกัดคนร้าย อีกทั้งไม่สามารถไปคาดเดาพิกัดของคนร้ายได้อีกด้วย