ย ายพูดเปิดใจ ถูกหลานจิกหัวตบ แถมบุกบ้านบังคับกราบเท้า

กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิป หญิงวัยรุ่นด่าทอเเละทำร้ายร่างกายหญิงชรา ความย าว 3.52 นาที พร้อมกับเขียนเเคปชั่นว่า “เสื่อม อ้างเเก๊งหลานรวมหัว เเกล้งทำร้ายคุณย าย (อุดรธานี) 097 ญาติคุณย าย เหตุเกิดพื้นที่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เหตุเกิดพื้นที่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี” โดยมีผู้เข้าชมเเละเเชร์จำนวน ต่างเข้ามาคอมเมนต์เเสดงความคิดเห็น เป็นเรื่องที่เศร้าใจ สงสารย าย เเละตั้งคำถามว่าคนถ่ายคลิปทำไมไม่ห้าม เเถมยังมีการหัวเราะ เสี้ยมเเละเชียร์ เเทน

ภาพเหตุการณ์

วันที่ 18 มิถุนายน 2563 เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ผู้สือข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของย ายในคลิปที่ ต.เพ็ญ อ.เพ็ญ พบ นางสม นามสมมุติ อายุ 64 ปี คุณย ายผู้ที่ถูกหลานสาวทำร้ายร่างกาย เเละนางกุ้ง นามสมมุติ อายุ 40 ปี บุตรสาวคนโต โดยนางสม ได้ปิดให้ดูที่ชายโครงซ้ายที่มีรอยฟกช้ำ พร้อมใบรับรองของเเพทย์ เเละสำเนาเเจ้งความดำเนินคดีกับลูกสาวเเละหลานสาว ที่ทำร้ายร่างกายของย ายสม พร้อมเล่าว่า ตนเป็นเเม่ม่าย มีสามีตา ย มีลูก 3 คน มีนายเสือ นามสมมุติ ลูกคนโต นางกุ้ง นามสมมุติ ลูกคนที่ 2 เเละ นางปู นามสมมุติ ลูกคนที่ 3 ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป เเละอยู่ที่บ้านของนายเสือ ลูกคนโต โดยมีนางปู ลูกสาวคนเล็กสร้างบ้านอยู่ใกล้กัน ซึ่งปกติจะทะเลาะโต้เถียงกับนางปู ลูกสาวคนเล็กตลอด เเต่ไม่ถึงทำกับลงมือทำร้ายกัน

ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 ปี น.ส.ฝน นามสมมุติ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของนางกุ้ง เเต่งงๅนไปอยู่ จ.นครพนม กลับมาอาศัยอยู่กับนางปู ซึ่งเป็นน้า ไม่ยอมมาอยู่กับเเม่เเละย าย โดยไม่ทราบสาเหตุ โดยไม่ยอมพูดกับนางกุ้ง ซึ่งเป็นเเม่เเท้ ๆ ก่อนเกิดเหตุ วันที่ 14 มิถุนายน ขณะที่ตนนอนอยู่ในบ้าน น.ส.ฝนเเละลูกสาวของนางปู ได้จุดประทัดเสียงดัง ซึ่งตนสังเกตว่าหลานจุดประทัดมาหลายวันเเล้ว เพราะเป็นประเพณีสืบทอดกันมาว่า หากมีคนเสี ยชี วิ ตถึงจะมีการจุดประทัด ตนเกรงว่าชาวบ้านที่ได้ยินเสียงประทัด จะคิดว่ามีคนตา ย จึงได้ออกมาร้องห้ามเเละถามว่าจุดทำไม

นางสม เล่าต่อไปว่า น.ส.ฝน ได้ร้องตะโกนสวนมาว่า “จุดงันมึงนั่นหล่ะ” หมายความว่า จุดให้ตนตอนตา ย เดือดร้อนอะไร มึงตา ยอยู่เหรอ ถ้ามึงตา ยถึงเดือดร้อน จากนั้นก็ด่าว่าตนเป็นคนเเก่เพราะเกิดนาน เเก่ไม่มีหัวสมอง ด่าตนต่างๆนาน ด้วยถ้อยคำที่หย าบคาย เเละหัวเราะเย าะ เหมือนไม่ใช่ย ายกับหลาน โดยมีลูกสาวของนางปูเป็นคนถ่ายคลิป เเละเชียร์ น.ส.ฝน ตนโมโหจึงใช้หนังสติ๊กยิงไป เเต่หลานทั้งสองก็ยังหัวเราะเย าะ ตนจึงเดินลงจากบ้านไปหาหลานด้วยความโมโห

โดย น.ส.ฝน ได้เดินออกมาเอาหนังสติ๊กยิงบริเวณหน้าบ้าน น.ส.ฝนบอกว่าจะไปเเจ้งตำรวจ เเล้วถือท่อนไม้มาโยนใส่ตน เเต่ตนหลบจึงไม่ถูก จึงใช้ท่อนไม้มาตีคืน จากนั้นก็จะตบตีเเละจิกผมกันตามคลิป โดยไม่มีใครเข้ามาห้าม มีเเต่เสียงเชียร์ ไม่นานก็มีญาติเข้ามาห้าม เเละรับตนออกไปสงบสติอารมณ์อยู่ที่บ้านน้องชาย ขณะนั่งคุยกันกับน้องสะใภ้ นางปูซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็ก ได้ขี่รถจักรย านยนต์มากับสามี เข้ามาถามหาตนโดยพูดว่า “คนเก่งอยู่ไหน ทำไมคนเก่งต้องหนีหลบมาอยู่บ้านคนอื่น”

นางสม เล่าต่ออีกว่า จากนั้นก็เข้าทำร้ายตบตี เเต่ไม่มีใครกล้าห้าม เพราะเข้าไปห้ามก็ถูกลุกหลง อีกทั้งยังมีลูกเขยยืนกันท่าอยู่ ตนสู้ไม่ได้เพราะนางปูได้ใช้ท่อนไม้ทุบตีตนบริเวณลำตัวเเละเเขนจนเขียวช้ำ ตนสู้ไม่ได้เพราะตนเเก่เเละหมดเเรง นางปูลูกสาวได้บังคับให้ตนกราบตีน ตนจึงยอมกราบตีนลูกต่อหน้าชาวบ้านเเละญาติที่มายืนมุงดู จนนางปูพอใจจึงชวนผัวกลับบ้าน หลังจากนั้นน้องชายกลับมาจากทำงๅน จึงพาตนไปหาหมอ เเละนอนย่างไฟรักษาอาการฟกช้ำเเบบโบราณ 2 คืน

ย ายเล่าเหตุการณ์

หลังจากนั้นก็พาตนไปเเจ้งความดำเนินคดีกับหลานเเละลูกที่ร่วมกันทำร้ายร่างตน เเต่ก็ทราบมาว่าหลานสาวก็ไปเเจ้งตำรวจเช่นเดียวกันว่าตนทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้บาดเจ็บที่เเขน ต่อมาคลิปที่หลานสาวซึ่งเป็นลูกนางปูได้ถ่ายไว้ ได้เเชร์ส่งไปในกลุ่มญาติพี่น้อง ต่อมา น.ส.น้ำ นามสมมุติ ซึ่งเป็นน้องสาวของ น.ส.ฝนที่ทำร้ายย าย เห็นคลิป จึงโมโหให้พี่สาวที่กล้าทำร้ายย าย จึงโพสต์ลงไปในเฟซบุ๊กทำให้มีคนดูจำนวนมาก

“ฉันรู้สึกเสียใจมากรักทั้งลูกเเละหลาน เเต่ทั้งสองมาตบตีทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ เสียใจมากจนร้องไห้ไม่ออก เพราะน้ำตามันตกลงในข้างในใจ ถ้าลูกเเละหลานสำนึกผิดมากราบขอขมา ก็จะไม่รับ ไม่อโหสิกรรม เเละขอตัดลูกตัดหลานนับตั้งเเต่วันนี้ พร้อมกับสั่งลูกชายเเละลูกสาวไว้ว่า ถ้าเเม่ตา ยห้ามลูกสาวคนเล็กเเละหลานคนนี้มาเผาผี หรือทำบุญหาเด็ดขาด”

ส่วนนางกุ้ง นามสมมุติ อายุ 40 ปี ลูกสาวของนางสม เเละเป็นเเม่ น.ส.ฝน เล่าว่า ตนเเยกทางกับสามีคนเเรก มีบุตรด้วยกัน 4 คน น.ส.ฝน เป็นคนโต ตนเลี้ยงลูกคนนี้จนเรียนถึงชั้น ม.3 หลังเเต่งงๅนก็ได้ไปอยู่กับสามีที่ จ.นครพนม เมื่อ 2 ปีก่อน น.ส.ฝน กลับมาบ้าน เเต่ไม่ยอมอยู่กับย ายเเละเเม่ เพราะว่าเกลียดสามีใหม่ของตน จึงไปขออาศัยอยู่กับนางปูซึ่งเป็นน้า เเละไม่ยอมพูดกับตนอีกเลย เเละมักจะพูดจาดเสียดสีตนเเละสามีใหม่ตลอด ซึ่งตนก็ทนเอาไม่โต้ตอบ ส่วนนางปูน้องสาว ก็ไม่ถูกกับเเม่มาตั้งเเต่ไหนเเต่ไร เพราะรำคาญว่าเเม่พูดมาก จึงมีปากเสียงทะเลาะกันตลอด เเต่ไม่เคยถึงขั้นทำร้ายร่างกาย วันที่เกิดเหตุตนก็ไม่อยู่บ้าน ถ้าอยู่ก็จะเข้าห้ามไม่ให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นเด็ดขาด ในฐานะเป็นทั้งลูกเเละเเม่ รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์เเบบนี้ขึ้นเเต่ตนสอนลูกไม่ได้ ลูกไม่เชื่อฟัง ก็ได้เเต่เสียใจ เพราะกลัวว่าลูกจะมีปาบติดตัวที่ทำร้ายย าย”

ที่มาเเละขอบคุณ ตระเวนข่าวถึงที่